อย่างที่รู้กันนะครับว่า “อุบัติเหตุ” ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเวลาต่อให้เราระวังตัวดี หรือขับรถมาหลายปีแล้วก็ตาม อย่างล่าสุดมีข่าวรถยี่ห้อดังจมน้ำโชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร ซึ่งเคสแบบนี้จะว่าไปนับวันยิ่งได้ยินบ่อยครั้งแต่จะมีซักกี่ครั้งที่จะมีคนโชคดี วันนี้ “เต็มใจ” มีวิธีการเอาตัวรอดเมื่อรถจมน้ำมาฝากกัน สำคัญมากนะตั้งใจอ่านกันดีๆ
“ตั้งสติ อย่าล่ก”
ท่องไว้เลยนะว่า การมีสติคือ “คีย์หลัก” ของทางรอดเมื่อรถตกน้ำ ให้ปลดเข็มขัดนิรภัย และปลดล็อกประตู ผลการวิจัยพบว่ารถจะลอยได้ราว 30 – 120 วินาทีก่อนที่จะจม ถ้ามัวแต่ตกใจไม่เป็นเรื่องที่ดีแน่ครับ
“รีบช่วยตัวเองเท่าที่ทำได้”
รีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกให้ไว ถ้าว่ามีเด็กนั่งรถไปด้วย เลือกปลดของเด็กโตที่สุดก่อน เพื่อให้เด็กโตช่วยคนอื่นต่ออีกที แต่ต้องกำชับให้ทุกคนมีสติ หายใจตามแบบปกติ แต่ถ้าน้ำเริ่มท่วมกว่าระดับหน้าอกให้สูดหายใจลึก ๆ ปิดปาก กลั้นหายใจทันทีครับ
“เลื่อนกระจกลง 4 ด้าน”
ให้รีบเปิดกระจกทันที เพราะทั่วไปแล้ว “รถ” และ “แบตเตอรี” จะยังไม่ดับเลยนะครับ พยายามเปิดกระจกให้กว้างที่สุดให้พอออกมาได้ หรือถ้ารถคุณมี “ซันรูฟ” ให้รีบเปิดกระจกบนหลังคา โดยทั่วไปแล้วกระจกไฟฟ้ายังทำงานอย่างน้อยราวหนึ่งนาที ก่อนน้ำจะท่วมเครื่องครับ
“พยายามเปิดไฟรถให้ได้มากที่สุด”
การเปิดไฟในรถให้สว่างมากที่สุด จะช่วยให้ทีมกู้ภัยมองเห็นได้ว่าคุณอยู่ตรงไหน ในกรณีที่รถกำลังจมอย่างรวดเร็ว พยายามมีสติให้ได้มากที่สุด หายใจเข้าลึก ๆ ครับ
“ใช้อุปกรณ์ที่แข็งทุบกระจก”
หากรถกำลังจมน้ำ พยายามเปิดกระจก ปลดล็อกประตูทุกบานให้เร็วที่สุด ถ้ายังเปิดกระจกไม่ได้ ลองถอดพนักพิงหัวออกจะเจอ “แท่งเหล็ก” ใช้มันกระแทกกระจกร่องด้านข้าง ตอกให้ได้ซัก 1 นิ้ว ค่อยงัดเข้าหาตัวกระจกจะแตกทั้งบาน แล้วรีบหาทางออกมาให้เร็วที่สุด ถ้างัดพนักพิงหัวไม่ได้ ลองหาอะไรแข็ง ๆ ที่มีตอนนั้นดูครับ
“รีบว่ายน้ำหนีให้เร็วที่สุด”
เมื่อออกมาจากตัวรถได้ ควรรีบว่ายน้ำหนีให้เร็วที่สุด เพราะเมื่อกระจกแตกน้ำจะไหลเข้าเร็วขึ้น ถ้ามีเด็กที่ว่ายน้ำไม่เป็นไปด้วย ให้หาวัตถุเกาะยึดไว้เพื่อให้ลอยขึ้นเหนือน้ำได้ แนะนำว่าจังหวะที่ว่ายหนีทางหน้าต่างอย่าใช้เท้าถีบส่งแรงควรใช้มือช่วยดัน ไม่งั้นเสี่ยงทำคนข้างหลังอันตรายจากเศษกระจกครับ
“หนีทางประตูรถ”
อันนี้ควรเก็บไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย ถ้าหนีออกจากรถทางหน้าต่างไม่ได้จริง จำไว้ว่าถ้าจะหนีออกทางประตูควรเป็นช่วงที่รถอยู่เหนือระดับน้ำ แต่เอาดี ๆ คือทำได้ยากเพราะคนส่วนมากนึกไม่ทัน มัวแต่ตกใจรู้ตัวอีกทีหายไปครึ่งคัน เมื่อนั้นแรงดันน้ำจะทำให้เราเปิดประตูไม่แทบได้เลย แต่ถ้าคับขันเหลือทางเดียวจริง ๆ ให้ปลดล็อกประตูรอ เมื่อน้ำเข้ารถจนเกือบถึงหลังคา “ความดันใน และนอกรถจะใกล้เคียงกัน” จะเป็นโอกาสดีที่เราจะเปิดประตูออกได้ รีบผลักออกไปให้กว้างที่สุด แล้วรีบว่ายไปเลยครับ
“อย่ามัวแต่ห่วงของ”
ทิ้งทุกอย่างที่ไม่จำเป็น ท่องไว้ถ้ายังมีชีวิตรอด ของอะไรอยู่ในรถเราหาซื้อใหม่ได้
“ว่ายตามฟองอากาศ”
เมื่อหนีออกจากรถได้แต่งงว่าจะไปทางไหนดี ให้มองหา “ฟองอากาศ” แล้วว่ายน้ำตามทิศทางที่มันจะลอยขึ้นไปครับ
อุบัติเหตุแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแน่ ๆ การเรียนรู้ และรับมือกับเรื่องไม่คาดฝันจึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่สำคัญการขับรถแบบไม่ประมาท การตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถก่อนการขับขี่ รวมทั้งการมีสติ ล้วนเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรารอดพ้นจากเหตุการณ์เลวร้ายได้ไม่มากก็น้อยเลยละครับ
ขอบคุณบทความดีๆ eTOYOTA
หากสนใจอยากออกรถยนต์โตโยต้าหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อมาได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า โทร.(043) 333-444 สำหรับติดต่อช่องทางออนไลน์ทักมาที่เพจ Facebook Toyotakaennakorn หรือ Add LINE @TOYOTAKAENNAKORN ศูนย์บริการโตโยต้าแก่นนครเรามีเช็กฟรี 24 รายการ บริการซ่อมเครื่องรถยนต์โตโยต้า บริการงานศูนย์ซ่อมตัวถังและสี และอื่นๆอีกมากมาย สนใจสามารถเข้ามาใช้บริการได้ที่ โตโยต้าแก่นนคร ทุกสาขา